ตัวกินมดอาร์ดวาร์ก : Aardvark

ตัวกินมดอาร์ดวาร์ค หรือ หมูดิน สัตว์ที่แสนพิเศษของแอฟริกาซึ่งอาศัยประสาทการดมกลิ่นเป็นหลัก มันต่างจากสัตว์กินหญ้าชนิดอื่นๆ มันได้วิวัฒนาการโครงสร้างพิเศษเพื่อใช้ในการทำสงครามกับแมลงครั้งหนึ่งพวกมันเคยอยู่ในเขตแดนที่ทอดไกลตั้งแต่แอฟริกาใต้ไปจรดอินเดียแต่บัดนี้กลับพบได้แต่ในดินแดนทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า ในทุ่งหญ้าอันแห้งแล้งแห่งคาลาฮารีเท่านั้น ทะเลทรายคาลาฮารีเป็นสถานที่ๆ ร้ายกาจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

อุณหภูมิตอนกลางวันที่อาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียส แต่เนื่องจากอาร์ดวาร์คเป็นสัตว์ที่หากินกลางคืน จึงไม่เป็นปัญหาต่อพวกมันแต่อย่างไร พวกมันได้ปรับชีวิตให้หลีกเลี่ยงแสงแดด ฝนตกที่ไม่แน่นอน และฤดูแล้งที่กินเวลานานหลายเดือน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติในคาลาฮารี พื้นดินแห้งแข็งจนแตกระแหง ไม่มีสัตว์ใดสามารถขุดลงไปได้นอกจากอาร์ดวาร์ก กรงเล็บอันแหลมคมของมันคือเครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ก็เป็นการปรับตัวที่เหมาะสมกับดินแดนอันแห้งแล้งแห่งนี้ แต่ตัวกินมดอาร์วาร์กไม่สามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ในโลกใต้พิภพได้ ถ้าอยากจะหากิน พวกมันต้องเข้าไปในเครือข่ายแห่งชีวิตบนพื้นดิน

กิจกรรมแทบทุกอย่างของอาร์ควาร์กถูกจำกัดอยู่แต่ในชั่วโมงความมืด ซึ่งสบายกว่า เพราะแม้ว่าคาลาฮารีจะเป็นพื้นที่กึ่งทะเลทราย และร้อนระอุในเวลากลางวัน แต่อากาศจะเย็นมากในเวลากลางคืนเจ้าสัตว์ที่หนัก 70 กิโลกรัมตัวนี้ชอบความมืด แม้สายตาของมันจะแย่ แต่ด้วยประสาทการดมกลิ่นที่ดีรวมทั้งประสาทการฟังที่ดี อาร์ดวาร์กจึงมีโอกาสที่ดีเหนือนักล่าและเหยื่อในตอนกลางคืน ภารกิจของมันคือกำจัดปลวก ทุกๆคืนมันจะร่อนเร่ไปตามลำพังเดินซิกแซกไปไกลบนเส้นทางกว้าง 30 เมตรซึ่งยาวประมาณ 10 กิโลเมตรมันหวังจะดมกลิ่นเพื่อเจอปลวกหรือมดบ้าง ตัวกินมดมีวิวัฒนาการขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียว นั่นคือทำสงครามกับมดและปลวก สงครามของพวกมันมีมาตั้งแต่โบราณ ทว่าคู่ต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายกลับมีขนาดไม่เท่าเทียมกัน ฝ่ายหนึ่งตัวใหญ่กว่า แต่อีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่า ตัวกินมดเป็นสัตว์โบราณหน้าตาประหลาด พวกมันสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงปัจจุบันได้เพราะว่าความสำเร็จของอาหารพิเศษของมัน

 

<------------->

<------------->

 

ในการกินอาหารของเจ้าตัวกินมดอาร์ดวาร์กแต่ละครั้งนั้น ถึงแม้ว่ามันจะมองไม่ค่อยเห็นแต่มันก็รู้สึกได้ว่ามีแหล่งอาหารอยู่ใกล้ๆ มันจะใช้กรงเล็บเท้าหน้าที่แข็งแรงและมีรูปทรงเหมือนกีบเท้า เตะทรายออกไปด้วยขาหลัง และสร้างเกราะคุ้มกันโดยใช้ขนที่ดกหนาช่วยปกป้องรูจมูกที่สำคัญ มันจะต้องพยายามปิดตาเอาไว้ให้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าตาได้ เมื่อเจอรังปลวกหรือมดมันสามารถเลียได้ด้วยลิ้นที่อาบน้ำลาย จิกกินปลวกตัวเล็กจำนวนน้อยทีละครั้ง ตัวกินมดจะไม่เลียปลวกกินจนหมดรัง พวกมันจะกินทีละ 10,000 ตัว แต่นี่เป็นเพียงส่วนน้อยของรังเท่านั้น

เมื่อค่ำคืนใกล้จะสิ้นสุดลง มันจะอยู่ตามลำพังและหลีกเลี่ยงผู้ติดตามทั้งหลายและระวังไม่ให้พบกับสิงโตหรือไฮยีนาที่อาจตามรอยมันมา แต่มันก็มีแผนการที่ชาญฉลาดอยู่เสมอ จมูกของมันจะตรวจหาอันตราย เท้าของมันสามารถบอกได้ถึงพื้นดินที่ยังไม่แข็งมากนัก และมันจะขุดลงไปสำหรับการซ่อนตัว มันสามารถขุดอุโมงค์ได้เร็วกว่ามนุษย์ที่มีพลั่วถึง 6 คน รูบางแห่งยาวเพียงแค่ 2-3 เมตร แทบจะไม่มีที่พลิกตัวด้วยซ้ำไปแต่โพรงหลักของมันมีพื้นที่มากกว่าอาจจะยาวถึง 12 เมตรและลึกถึง 6 เมตร มีโพรงนอนอยู่ลึกเข้าไป เมื่อค่ำคืนสิ้นสุดลง มันก็จะปลอดภัยอยู่ใต้ผืนทรายของคาลาฮารี มันยังสามารถเปิดช่องทางได้ถ้ามันต้องการ ลึกลงมาที่นี่มันจะไม่ร้อนเหมือนอยู่บนผิวดิน ลึกลงไปใต้ดิน ตัวกินมดจะเริ่มนอนหลับพักผ่อนในเวลากลางวัน มันคงจะเป็นเหยื่อที่ง่ายดายสำหรับสัตว์กินเนื้อภายนอกแต่คงไม่มีใครกล้าตามเข้าไปจัดการมันถึงในโพรง แต่ถ้าทำ มันก็ขุดหาทางหนีได้เสมอ

ตัวกินมดอาร์ดวาร์กสังหารปลวกนับล้านตัวในชีวิต เพื่อนที่กินปลวกทั่วโลกก็ทำเช่นเดียวกันเพื่อควบคุมประชากรปลวก แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าตัวกินมดอาร์ดวาร์กและเพื่อนไม่เหลืออยู่อีกต่อไป? ปลวกจะเพิ่มขึ้นจนเกินควบคุมและพวกมันจะบุกรุกทุ่งหญ้าในโลก มันจะผลิตแก๊สมีเธนจำนวนมากออกไปในชั้นบรรยากาศก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกนั่นหมายถึงจะทำให้โลกร้อนขึ้น นี่เป็นปฏิกิริยาห่วงโซ่อาหารที่กว้างไกลซึ่งมีที่มาจากการชอบกินปลวกของตัวกินมดอาร์ดวาร์กเท่านั้นเอง ตัวกินมดอาร์ดวาร์กมิใช่สัตว์สำคัญเพียงอย่างเดียว เครือข่ายชีวิตมิได้จะล้มหรืออยู่เพราะการกระทำของมันเท่านั้น แต่ผลที่มันมอบให้ต่อสภาพรอบตัวนั้นยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับการสร้างโพรงที่ช่วยให้เย็นสบายและปกป้องลูกน้อย บทบาทในวัฏจักรชีวิตของพืช และสายสัมพันธ์เก่าแก่กับแมลงสังคมเช่นปลวก มดทุกอย่างล้วนเป็นบทบาทสำคัญของอาร์ดวาร์กในการรักษาเครือข่ายแห่งชีวิตในคาลาฮารีไว้ตลอดไป

(772)

ใส่ความเห็น