หมาจิ้งจอกอาร์กติก, หมาจิ้งจอกขั้วโลก หรือ หมาจิ้งจอกหิมะ เป็นชื่อเรียกของเจ้าหมาจิ้งจอกตัวเล็กที่อยู่อาศัยทั่วไปในเขตชายผั่งมหาสมุทรอาร์กติกตลอดจนเขตทุนดราที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ในช่วงที่อากาศดี หมาจิ้งจอกอาร์กติกจะออกมาหาอาหาร โดยจะล่าสัตว์เล็ก ๆ เช่น หนูเลมมิ่ง, นกกระทาขั้วโลก บางครั้งถ้าโชคดีก็จะเจอซากสัตว์ที่หมีขั้วโลกกินเหลือทิ้งไว้ก็จะกินซากนั้น
พวกมันมีขนาดหัวจรดลำตัวยาว 82-86 เซนติเมตร ความยาวหาง 30-31 เซนติเมตร หนักประมาณ 1.4-3.5 กิโลกรัม ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย มีใบหน้าสั้นกว่าจิ้งจอกพันธุ์อื่น ใบหูเล็ก ขนหนาฟูสีขาว เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน รวมถึงบริเวณอุ้งเท้าที่มีขนช่วยให้พวกมันเดินและวิ่งบนพื้นน้ำแข้งได้ในวันหิมะตกหนักหรือเกิดพายุ จิ้งจอกอาร์กติกจะขุดโพรงลึกใต้หิมะ และขดตัวนอนโดนใช้หางตวัดห่มตัวและหน้าไว้ คล้ายกับคนห่มผ้า
และเมื่อฤดูหนาวหมดลง ขนขาวๆจะหลุดและขนสีเทาอมน้ำตาลจะขึ้นมาแทนที่ ทำให้มันดูตัวเล็กลง ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ จะมีช่วงระยะเวลาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนจนถึงพฤษภาคม จะมีการกำเนิดของลูกหมาจิ้งจอกตัวน้อยๆ โดยครอกหนึ่งมีประมาณ 6-7 ตัว และอาจมากได้ถึง 25 ตัว พวกมันจะเติบโตอย่างรวดเร็ว และกินอาหารสะสมเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมรับมือกับฤดูหนาว จิ้งจอกอาร์กติกจะเก็บอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว เช่น ฝังซากหนูเลมมิ่งไว้ใต้หิมะ บางตัวจะเก็บนกเล็ก ๆ ไว้ถึง 27 ตัว และไข่อีก 40 ฟองไว้ในโพรงหิน
เมื่อฤดูหนาวกลับมาอีกครั้ง ก็ถึงเวลาต่อสู้กับสภาพอากาศที่โหดร้าย ขนสีเทาอมน้ำตาลจะกลับมาเป็นขนหนานุ่มสีขาวอีกครั้ง โดยช่วงแรกลูกหมาจิ้งจอกจะอาศัยอยู่กับพ่อแม่จนกระทั่งขนบริเวณอุ้งเท้าหนาพอจะออกไปเดินและวิ่งบนพื้นน้ำแข็งได้อย่างสะดวก
(1685)
You must be logged in to post a comment.