นกอีมู คือนกพื้นเมืองที่มีการกระจายพันธุ์ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศออสเตเลีย มักหากินเป็นฝูง แต่ละฝูงจะมีตัวผู้ควบคุมตัวเมีย พบได้ในเขตทุ่งหญ้าและป่ากึ่งแห้งแล้ง พวกมันสูงได้ถึง 1.9 เมตร หนักราว 60-70 กิโลกรัม เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์พวกมันจะสร้างรังเพื่อวางไข่ราว 9-12 ฟอง ไข่มีสีเขียวสวยงามคล้ายผลอะโวคาโด้
พวกมันมีขนนุ่มสีน้ำตาล มีคอและขายาว นิ้วเท้าสามนิ้ว ลักษณะทางกายภาพแสดงให้เห็นว่าเป็นนกที่บินไม่ได้ แต่พวกมันสามารถเดินทางได้ไกลและวิ่งได้เร็วกว่า 50 กม. / ชม. ระยะการก้าวเดินของอีมูยาวประมาณ 100 เซนติเมตร ในตอนวิ่งอาจจะกว้างได้ถึง 275 เซนติเมตร นกอีมูจะกินผลไม้ ดอกไม้ เมล็ดพืช แมลง และสัตว์เลื้อยคลานชนิดเล็กเป็นอาหาร
สงครามนกอีมู (The great emu war) ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 1930 เหล่าทหารของออสเตรเลียได้กลับมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยความที่มีพื้นที่จำกัดทำให้พวกเขาเข้าไปบุกเบิกพื้นที่ทำกินแห่งใหม่ซึ่งมีนกอีมูเป็นเจ้าถิ่น พวกเขาจึงขับไล่มันไปแล้วเริ่มทำการเกษตรปลูกพืช ทำสวนไร่นา แต่แล้วเมื่อผลผลิตเกิดขึ้น นกอีมูเจ้าถิ่นก็ได้กลับมาทำลายกัดกินพืชพันธุ์จนหมดสิ้น เดือดร้อนไปถึงรัฐบาลซึ่งเป็นผู้จัดหาที่ทางให้แก่ผู้คนเหล่านั้น
รมว.กลาโหม เซอร์จอร์จ เพียร์ซ จึงได้ลงนามคำสั่ง ประกาศสงครามกับนกอีมู ให้กองกำลังปืนใหญ่ที่ 7 นำโดย G.P.W. Mederith นำทหาร 12 นาย และ ปืนใหญ่ lewis 2 กระบอก พร้อมกระสุน 10,000 นัด จากประสิทธิภาพของปืน ซึ่งเคยแผลงฤทธิ์ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้พวกเขามั่นใจมากว่าจะชนะ
และแล้วในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1932 สงครามก็ได้เริ่มขึ้น โดยพลตรีได้นำปืนกลไปตั้งและยิงฝูงนก แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากพวกมันเร็ว ถึก และมีจำนวนมาก หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นการซุ่มโจมตีแทน แต่ก็เสียเปล่า เพราะนกอีมูวิ่งหนีกระเจิงเป็นกลุ่มๆ ทำให้ไม่ว่าใช้วิธีใดก็ไร้ผลจนเกิดเป็นปัญหาในรัฐสภา
วุฒิสมาชิก เจมส์ ดันน์ ได้กล่าวหา รมว.กลาโหม เซอร์จอร์จ เพียร์ซ ได้สติฟั่นเฟืองไปหรือเปล่า ที่ไปทำสงครามกับนกอีมูซึ่งไม่มีพิษภัย และมติที่ประชุมก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ ทำให้วันที่ 10 ธันวาคม 1932 มีการประกาศให้สงครามนี้จบลง นั่นหมายความว่า เหล่าทหารกล้าของออสเตเรียพ่ายแพ้ต่อสงครามในครั้งนี้ และหลังจากนั้นมีการประกาศห้ามไม่ให้ชาวนารุกล้ำแถบพื้นที่นั้นอีก โดยสงครามนกอีมูมีระยะเวลากว่า 40 วัน กองทัพได้เสียลูกกระสุนไปกว่าหมื่นนัด แต่มีนกอีมูเสียชีวิตเพียง 1,000 ตัว
แต่เรื่องราวยังไม่จบ เมื่อเหล่าหนังสือพิมพ์ได้เล่นข่าวใหญ่โตจนทำให้ทั่วโลกขันและล้อเลียนว่า ไร้สาระ ไม่มีอะไรทำหรืออย่างไรถึงไปทำสงครามกับนก แถมยังแพ้กลับมาอีกต่างหาก ทำให้ปัจจุบันสงครามนี้ยังคงมีการนำกลับมาล้อเลียนอยู่เสมอๆ
(11555)
You must be logged in to post a comment.