Fuji Mountain ภูเขาไฟในภาพเขียน

ภูเขาไฟฟูจิ, ฟูจิยะมะ หรือฟูจิซัง คือภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซุโอะกะ และ จังหวัดยะมะนะชิ มีความสูงราว 3,776 เมตร มีเส้นรอบวงถึง 126 กิโลเมตร พื้นที่โดยรอบประกอบด้วยทะเลสาบฟูจิทั้งห้า อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และ น้ำตกชิระอิโตะ

ภูเขาฟูจิมีอิทธิพลต่อศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ มักปรากฏชื่ออยู่ในบทกลอน ภาพเขียน ชื่อบริษัท สินค้า และอีกมากมาย เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นหัวใจของชาวญี่ปุ่นซึ่งโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะเรื่องทัศนียภาพที่งดงามจากการที่มีหิมะปกคลุมบริเวณยอดเขา ทำให้กลายเป็นจุดดึงดูดผู้คนมายาวนานกว่าหลายร้อยปี

ปัจจุบันภูเขาแห่งนี้ถูกจัดว่าเป็น ‘ภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ’ โดยการระเบิดครั้งล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2250 การระเบิดในครั้งนั้นไม่มีลาวาไหลออกมา แต่ได้ปล่อยเถ้าภูเขาไฟกว่า 800 ล้านลูกบาศก์เมตร กินบริเวณกว้างรอบภูเขาไฟ และลอยไปไกลถึงเอโดะ ซึ่งอยู่ห่างไปเกือบ 100 กิโลเมตร

การประทุครั้งนั้นทำให้เกิดช่องภูเขาไฟแห่งใหม่ เรียกว่า ช่องโฮเอหมายเลข 1, 2 และ 3 ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดกินเวลานานหลายวัน ทำให้มีเถ้าภูเขาไฟหนาหลายเซนติเมตรในจังหวัดอิซุ คาอิ ซางามิและมูซาชิ ในเอโดะ หลังจากสิ้นสุดการระเบิดในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2251 ภูเขาไฟฟูจิก็ไม่เคยปะทุอีกเลย

มีการคาดการณ์ว่า ภูเขาไฟฟูจิอาจมีการปะทุขึ้นมาได้ เนื่องจากแผ่นเปลือกโลกบริเวณภูเขาไฟมีสภาพเปราะบางอยู่แล้ว เมื่อมีการเคลื่อนตัวจนเกิดแผ่นดินไหวก็อาจจะไปกระตุ้นภูเขาไฟได้ รวมถึงของเหลวร้อนซึ่งยังสะสมอยู่ภายใน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอุณหภูมิสูง, ก๊าซ, หินหนืดร้อนฯ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงจะกลายเป็นภัยพิบัติที่ส่งผลร้ายแรงอย่างยิ่ง

โดยนักวิทยาศาตร์ระบุว่า การปะทุพ่นเถ้าถ่านของภูเขาไฟฟูจิ อาจทำให้ญี่ปุ่นครึ่งประเทศกลายเป็นอัมพาต โดยเฉพาะกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ จะถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน ขณะที่ประชาชนหลายสิบล้านคน อาจต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา และอุปกรณ์ยังชีพที่สำคัญนานหลายสัปดาห์

นอกจากนี้ ฝุ่นละอองและก้อนกรวดจากภูเขาไฟ อาจพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 30 กิโลเมตร เป็นเวลาติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ส่วนเถ้าถ่านและลาวา รวมถึงการเกิดดินสไลด์ อาจทำให้การจราจรทั้งทางบกและทางอากาศ ไม่สามารถใช้การได้นานนับเดือน โดยสภาวะเช่นนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นเคยประเมินไว้ว่าอาจจะเสียหายมากกว่า 1 ล้านล้านบาท

(377)