หากได้เคยมีโอกาสไปที่อ่าว Chesapeake รัฐแมรี่เเลนด์ ในสหรัฐอเมริกา ก่อนปี 2010 จะพบว่ามีบ้านสีขาว ลักษณะดูทรุดโทรมถูกรายล้อมไปด้วยผืนน้ำกว้างใหญ่ เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเกาะขนาดใหญ่ กว้างราวครึ่งไมล์ ยาวประมาณ 5 ไมล์ ชื่อของเกาะถูกตั้งตามนามสกุลของ Daniel Holland ชายคนแรกที่เข้ามาอาศัยอยู่ เมื่อปี 1850
หลังจากนั้นมาได้มีผู้คนมากมายเข้ามาอยู่อาศัยถึง 360 คน เป็นจำนวนบ้านเรือนกว่า 70 หลัง รวมถึงมีการสร้างโรงเรียน โบสถ์ ที่ทำการไปรษณีย์ ศูนย์บริการชุมชน ทีมเบสบอลและแพทย์ประจำเกาะ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการประมง
แต่แล้วก็เริ่มมีปัญหา เมื่อสภาพพื้นดินบนเกาะไม่แน่น ด้วยมีโครงสร้างเกิดจากดินเหนียวและตะกอนหิน ทำให้มันถูกกัดเซาะจากน้ำทะเลอย่างต่อเนื่อง แม้คนบนเกาะจะสร้างกำแพงหรือแม้แต่จมเรือไว้รอบเกาะ เพื่อชะลอน้ำทะเลแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ผู้คนบางส่วนจึงตัดสินใจอพยพย้ายกลับเข้าฝั่ง
และแล้วช่วงเดือนสิงหาคมของปี 1918 ได้เกิดพายุโซนร้อนซัดเข้าเกาะ ทำลายล้างสิ่งก่อสร้างต่างๆไปเกือบหมด ชาวบ้านที่เหลืออยู่น้อยนิดจำต้องตัดใจอพยพย้ายกลับเข้าฝั่งจนหมด โดยครอบครัวสุดท้ายได้ย้ายออกมาในปี 1922 หลังจากนั้นเกาะฮอลแลนด์ได้กลายมาเป็นเกาะร้าง
นานจนถึงปี 1995 ความพยายามเพื่อป้องกันเกาะจากกระแสคลื่นลมยังคงดำเนินการต่อไป หนึ่งในนั้นคือ นายสตีเฟ่น ไวท์ อดีตผู้ที่เคยอยู่อาศัยบนเกาะ เขาได้จัดตั้งมูลนิธิเพื่อการรักษาเกาะฮอลแลนด์ มีการใช้หลากหลายวิธีเพื่อเสริมแนวชายฝั่ง แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงยื้อเวลาออกไป
15 ปีต่อมา ช่วงกลางเดือนตุลาคม ปี 2010 บ้านหลังสุดท้ายของเกาะฮอลแลนด์ได้ทรุดตัวจมลงอ่าว Chesapeake หลงเหลือไว้แต่เพียงความทรงจำของผู้คนที่เคยอาศัยบนเกาะเท่านั้น
(4505)
You must be logged in to post a comment.