ฟ้าทะลายโจร (ชื่อวิทยาศาสตร์: Andrographis paniculata Wall ex Ness.) เป็นพืชล้มลุก โดยในตำรายาโบราณของไทยจัดให้เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ที่สามารถหามารับประทานแก้โรคได้เอง
สูงประมาณ 1 ฟุต ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม แตกกิ่งมาก ใบรียาว ปลายใบแหลม ดอกขนาดเล็กสีขาว มีรอยกระสีม่วงแดง ลักษณะเป็นหลอด ฝักคล้ายฝักต้อยติ่ง เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน ใบมีสารประกอบแลกโตน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาแก้ไข้ โรคทางเดินหายใจ แก้เจ็บคอ แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งต้องหยุดยาทันที
ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชล้มลุกมีความสูงประมาณ 30 – 70 เซนติเมตร หรือประมาณ 1-2 ศอก ลำต้นเป็นเหลี่ยมสี่มุม ใบเป็นใบเดี่ยวรูปร่างเรียวยาวสีเขียวเข้มเป็นมัน ปลายแหลม กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ดอกช่อออกที่ปลายกิ่งและซอกใบ มีดอกย่อยขนาดเล็กสีขาว ด้านในสีม่วง โคนกลีบติดกัน กลีบดอกด้านบนมี 3 หยักด้านล่างมี 2 หยัก ผลเป็นฝักเมื่อผลแก่จะมีสีน้ำตาล ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลอ่อนจำนวนมาก
ฟ้าทะลายโจรมีสรรพคุณหลายประการ เช่น แก้ไข้ทั่ว ๆ ไป เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ระงับอาการอักเสบ ไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ รักษาโรคผิวหนัง ฝี แก้ติดเชื้อ ที่ทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะลำไส้อักเสบ เป็นยาขมเจริญอาหาร มีฤทธิ์ระงับการติดเชื้อหรือระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้
สารสกัดด้วยน้ำของฟ้าทะลายโจรที่ความเข้มข้น 31.25 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรยับยั้งการเจริญของ Stretococcus agalactiae ในอาหารเลี้ยงเชื้อได้ ปลานิล ที่เลี้ยงด้วยอาหารที่ผสมกับสารสกัดฟ้าทะลายโจร 4:36 (w/w) และ 5:35 (w/w) ตายเนื่องจากการติดเชื้อ S. agalactiae น้อยลง
(194)