ควอตซ์ ( Quartz) (SiO2) หรือมีชื่อว่า “แร่เขี้ยวหนุมาน” เป็นแร่ที่พบมากที่สุดในโลก มีค่าความแข็งที่ 7 ตามสเกลของโมส์ (Moh’s scale) สี มีทั้งโปร่งใส จนถึงทึบแสง มีมากมายแทบจะทุกสี
นอกจากนี้ ควอตซ์ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือมี Pieroelectric คือไฟฟ้าที่เกิดจากการกดดันทางกลไกที่มีต่อผลึก ซึ่งทำให้เกิดมีประจุไฟฟ้าขึ้นในควอตซ์ (เช่นเดียวกับทัวร์มาลีน) ด้วยคุณสมบัตินี้จึงนำมาใช้ควบคุมความถี่คลื่นวิทยุ ควบคุมความเที่ยงตรงของนาฬิกากันน้ำ ที่เราเรียกกันว่า นาฬิกาควอตซ์ และด้วยความโปร่งใสต่อแสงอัลตราไวโอเลต ทำให้ควอตซ์เหมาะที่จะนำมาทำเป็นเลนส์ของกล้องจุลทรรศน์อีกด้วย
ควอตซ์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
– แบบผลึกเดี่ยว Single Quartz หรือ Crystalline Quartz เป็นผลึกที่มีการเรียงตัวกันอย่างมีระเบียบ มีชื่อเรียกต่างกันไปตามสีที่พบ สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรม- การผลิต นาฬิกา, เลนส์ และอุปกรณ์ควบคุมความถี่ของคลื่นวิทยุ ที่รู้จักและนิยมในท้องตลาดก็คือ ควอตซ์สีเหลือง ที่เรียกว่า ซิทรีน (Citrine) และสีม่วงที่เรียกว่า แอเมทิสต์ (Amethyst) แอเมทิสต์ที่เจียระไนแล้ว
– แบบ Microcrystalline ประกอบด้วยกลุ่มผลึกเล็กๆ ไม่สามารถมองเห็นรูปผลึกได้ด้วยตาเปล่า เช่น หินตาเสือ (Tiger’s eye) ที่คนไทยเรียกว่า คดไม้สัก เป็นต้น
– แบบ Cryptocrystalline Quartz หรือที่เรียกว่า คาลเซโดนี Chalcedony เป็นควอตซ์ที่มีผลึกเล็กๆ ละเอียดรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ต่างจากแบบ Microcrystalline คือเป็นผลึกเล็กๆ มารวมกัน ไม่ใช่กลุ่มผลึก มีลักษณะเล็กกว่ากลุ่มผลึกนั่นเอง เช่น เจสเปอร์, เลือดพระลักษณ์ (Bloodstone) และอาเกท เป็นต้น
(331)