Porcelain Tower of Nanjing เจดีย์โบราณยุคราชวงศ์หมิง

เจดีย์กระเบื้องเคลือบ ตั้งอยู่วัดต้าเป่าเอิน เมืองนานกิง ประเทศจีน สร้างขึ้นโดย สมเด็จพระจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง ช่วงต้นศตวรรษที่ 15 เพื่ออุทิศถวายให้แก่พระมารดา เดิมในอดีตมีเพียง 3 ชั้น ต่อมาประมาณปี ค.ศ.1430 จักรพรรดิยุ่งโล้โปรดให้สร้างอีก 6 ชั้น รวมเป็น 9 ชั้น มีความสูงกว่า 79.5 เมตร

มีลักษณะรูปทรงแปดหลี่ยม ก่อด้วยอิฐประดับกระเบื้องเคลือบยอดแหลมทรงกลมเคลือบทอง หลังคามุงกระเบื้องเคลือบสีเขียว ชายคาแขวนกระดิ่ง 80 ลูกโดยรอบ มีสายโซ่โยงมา 8 เส้น ติดกระดิ่งตามโซ่อีก 72 ลูก มีการประดับโคมไฟจำนวนมาก ภายในตกแต่งด้วย ของมีค่า เงิน ทองคำ และอัญมณีจำนวนมาก กล่าวกันว่า บนยอดเจดีย์มีลูกบอลปิดทอง มีเหล็กวงแหวนล้อมรอบถึง 9 วง มีไข่มุกขนาดใหญ่ 5 เม็ดอยู่ปลาย เป็นเรื่องลางในแห่งความโชคดี

ในช่วงศตวรรษที่ 17 ได้มีนักเดินทางชาวดัชท์ชื่อ Johan Nieuhof เขาได้บันทึกการเดินทางและการเล่าถึงองค์เจดีย์ ทำให้กลายเป็นที่เลืองลือแก่ชาวตะวันตกในยุคนั้น และกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการขึ้นเป็นมรดกโลกยุคกลาง เจดีย์แห่งนี้เคยถูกฟ้าผ่าบ่อยครั้ง หลังจากนั้นในปี ค.ศ.1853 ถูกกบฎไท่ผิงเทียนกั๋ว (Taiping Rebellion) ได้เข้าไปทำลายเจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนี้ รวมถึงการกวาดของมีค่าและเครื่องบูชาไปทั้งหมด

  

หลังจากที่เจดีย์กระเบื้องเคลือบซึ่งเคยงดงามได้ถูกทำลายลงเหลือแต่ฐาน พื้นที่ในบริเวณนั้นได้ทิ้งร้าง จนกระทั่งในปี 2007 เทศบาลท้องถิ่นนานกิงได้ริเริ่มโครงการบูรณะวัดเป่าเอินขึ้น การขุดค้นนั้นกลับทำให้พบวัตถุโบราณมากมาย รวมถึงพระสาริกธาตุของพระพุทธเจ้า ทำให้กลายเป็นโครงการบูรณะที่ใหญ่และใช้เงินมหาศาลมากขึ้น

ต่อมาในปี 2010 มหาเศรษฐีชาวจีน Wang Jianlin เจ้าของ Dalian Wanda Group บริษัทด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้บริจาคเงินกว่า 1 พันล้านหยวน เพื่อเป็นทุนให้แก่การบูรณะครั้งนี้ โดยมันถูกตั้งอยู่ใน The Jinling Da Bao En Temple Park ริมแม่น้ำแยงซีเกียงในเมืองนานกิง

ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้า ประดับกระจกมีการเล่นแสงสีดูงดงาม ภายในมีการบรรจุวัตถุโบราณที่ยังหลงเหลือมาจัดแสดง ตลอดจนการนำเทคโนโลยี แสง สี เสียงเข้ามาใช้ ถือได้ว่าเป็นการอนุสรณ์สถานที่ผสมผสานวัฒนธรรมเก่าแก่ล้ำค่ากับวัฒนธรรมสมัยใหม่อย่างลงตัว

(3058)