วาฬสเปิร์ม หรือ วาฬหัวทุย มีลักษณะเด่น คือ ส่วนหัวใหญ่และยาวมากเกือบ 40% ของลำตัว ลำตัวสีเทาดำผิวหนังเป็นรอยย่นตลอดลำตัว ส่วนหน้าผากตั้งฉากตรงขึ้นจากปลายปากบน เป็นแนวหักลาดไปทางส่วนหลัง ท่อหายใจรูเดียวอยู่ส่วนบนเยื้องไปด้านซ้ายของหัว ลักษณะเป็นสันนูนขึ้นมาตั้งอยู่ค่อนไปทางท้ายลำตัว และมีสันเป็นลอนจนเกือบโคนหาง ครีบข้างค่อนข้างเล็กปลายมนเหมือนใบพาย ไม่มีครีบหลัง ขากรรไกรล่างแคบยาวและเล็กมากเมื่อเทียบกับส่วนหัว ฟันเป็นเขี้ยวจำนวน 16-30 คู่ บนขากรรไกรล่าง ขากรรไกรบนไม่มีฟัน แต่จะมีช่องสำหรับรองรับฟันล่างเวลาหุบปากเท่านั้น นอกจากนี้แล้วบริเวณรอบ ๆ ปากเป็นสีขาว เชื่อกันว่าในที่น้ำลึกสีขาวนี้จะเรืองแสง ใช้เป็นเครื่องล่อเหยื่อต่างๆ เข้ามาหามันได้
มีขนาดโตเต็มที่ยาวประมาณ 15-20 เมตร น้ำหนักมากถึง 28 ตัน มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง เป็นวาฬที่ดำน้ำได้ลึกที่สุด สำหรับตัวเต็มวัยภายในเวลา 1 ชั่วโมงอาจดำน้ำลึกถึง 2,800-3,000 เมตรจากการสูดหายใจเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังเป็นปลาที่ชอบกินปลาหมึกมากที่สุด โดยเฉพาะหมึกมหึมาและหมึกกล้วย โดยพบซากจะงอยปากหมึกในกระเพาะของวาฬสเปิร์ม ซึ่งวาฬบางตัวจะมีผิวหนังที่เป็นรอยแผลจากปุ่มดูดของหนวดหมึกปรากฏอยู่
วาฬสเปิร์ม นับเป็นวาฬที่ถูกล่าจากมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยการนำสารพิเศษในส่วนหัวมาทำการผลิตโลชั่น และเวชภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ ลักษณะคล้ายไขมันหรือขี้ผึ้ง เรียกว่า “ไขปลาวาฬ” เขี้ยวและฟันมาเป็นทำเครื่องประดับ ไขมันส่งเข้าอุตสาหกรรม เนื้อเก็บไว้สำหรับรับประทาน นอกจากนี้อาเจียนหรือมูล ยังใช้เป็นส่วนสำคัญในการผลิตหัวน้ำหอมและยาไทยได้ด้วย เรียกว่า “อำพันขี้ปลา” หรือ “อำพันทะเล” หรือ “ขี้ปลาวาฬ” เพราะมีลักษณะแข็งเหมือนอำพันและมีกลิ่นหอม ซึ่งเป็นของหายากและมีราคาแพง
สามารถพบได้ในทะเลและมหาสมุทรทั่วโลก ในน่านน้ำไทยพบเพียง 3 จังหวัด คือ พังงา, ภูเก็ต และสตูล และถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย ในปัจจุบัน มีผลการศึกษาพบว่า วาฬสเปิร์มรวมถึงวาฬชนิดอื่น ๆ มีขนาดลำตัวที่เล็กลงจากอดีต บ่งบอกว่าเป็นสัตว์ที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์
ภาพ: https://www.catersnews.com/stories/animals/having-a-whale-of-a-time-incredible-pictures-of-divers-swimming-alongside-whales/
(846)
You must be logged in to post a comment.