ค้างคาวแวมไพร์ หรือ ค้างคาวดูดเลือด มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้และอเมริกากลาง เป็นค้างคาวที่มีพฤติกรรมดูดเลือดสัตว์ชนิดอื่นเป็นอาหาร จึงถูกตั้งชื่อตามความเชื่อของชาวยุโรปยุคกลาง เป็นค้างคาวขนาดเล็กมีทั้งหมด 3 ชนิด ใน 3 สกุล จัดอยู่ในวงศ์ค้างคาวจมูกใบไม้โลกใหม่ แบ่งเป็นค้างคาวดูดเลือดธรรมดา , ค้างคาวดูดเลือดขาขน , และ ค้างคาวดูดเลือดปีกขาว
ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อ 26 ล้านปีก่อน เป็นญาติกับค้างคาวกินแมลง มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ในถ้ำในป่าดิบ ออกหากินในเวลากลางคืน โดยจะกินแต่เพียงเลือดของสัตว์เลือดอุ่นขนาดใหญ่กว่าเป็นอาหารเท่านั้น มีบางชนิดจะกินนกเป็นอาหาร บางครั้งยังแอบมาดูดเลือดมนุษย์ได้ด้วยเช่นกันในเวลาหลับ
สายตาของค้าวคาวแวมไพร์จะมองเห็นเป็นภาพอินฟาเรด จากความร้อนของอุณหภูมิร่างกายเหยื่อ ทำให้มองเห็นในเวลากลางคืนได้ดี เมื่อเข้าไปสูแหล่งอาหารได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปศุสัตว์ เช่น หมู หรือวัว พวกมันจะพุ่งเป้าเข้าไปหาอวัยวะส่วนต่าง ๆ เช่น ใบหู, ข้อศอก หรือหัวนม โดยใช้ฟันแหลมคมซี่หน้าคู่หนึ่งกัด ด้วยความคมของฟันกอปรกับมักกัดในเวลาที่เหยื่อนอนหลับ ทำให้เหยื่อไม่รู้ตัว ซึ่งเลือดที่ไหลออกมานั้นจะไหลผ่านลิ้นของค้างคาวที่มีร่องพิเศษช่วยให้เลือดไหลผ่านหลอดเลือดฝอยได้โดยง่าย และในน้ำลายค้างคาวจะมีเอนไซม์ทำให้เลือดไม่แข็งตัว ระหว่างที่ดูดเลือดอยู่นั้น ค้างคาวจะขับปัสสาวะไปด้วย เนื่องจากจะดูดเลือดในปริมาณมาก ทำให้ไม่สามารถบินได้
ค้างคาวแวมไพร์มีความผูกพันกับลูกมาก พ่อแม่ค้างคาวจะเลี้ยงดูลูกค้างคาวที่ยังบินไม่ได้นานถึง 9 เดือน โดยจะนำเลือดที่ดูดเหลือกลับมาฝาก และฝากไปยังค้างคาวตัวอื่นในฝูงที่หากินได้ไม่อิ่มพอด้วย นอกจากนี้ค้างคาวแวมไพร์ยังเป็นพาหะนำโรคกลัวน้ำ หรือโรคพิษสุนัขบ้าที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ด้วย
(269)
You must be logged in to post a comment.